top of page

เบื้องหลังความสำเร็จของ โฮม สตอรี่ ลิฟวิ่ง เมื่อระบบ ERP ก่อสร้างอัจฉริยะ ช่วยลดต้นทุน เพิ่มกำไร ด้วย AI

อัปเดตเมื่อ 25 ส.ค.

ระบบ ERP ก่อสร้างอัจฉริยะ ช่วยลดต้นทุน เพิ่มกำไร ด้วย AI
เมื่อระบบ ERP อัจฉริยะ พลิกเกมธุรกิจบ้านสำเร็จรูป

ในโลกของธุรกิจรับสร้างบ้านสำเร็จรูป ภาพที่หลายคนคุ้นตาคือความวุ่นวายของกองเอกสาร ใบสั่งซื้อวัสดุที่กระจัดกระจาย และความกังวลใจเรื่องต้นทุนที่อาจบานปลายได้ทุกเมื่อ สำหรับ บริษัท โฮม สตอรี่ ลิฟวิ่ง จำกัด เองก็เคยเผชิญกับความท้าทายเหล่านั้นมาแล้วเช่นกัน ทุกโครงการคือการต่อสู้กับการจัดการข้อมูลมหาศาล ตั้งแต่การเลือกวัสดุแผ่นแรกไปจนถึงการส่งมอบบ้านหลังสุดท้ายให้ลูกค้า

นี่คือเรื่องราวของการเปลี่ยนผ่านจากความท้าทาย สู่การทำงานที่ชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพ ด้วยเครื่องมือที่สร้างขึ้นจากความเข้าใจในปัญหาอย่างแท้จริง ด้วยรระบบ ERP ก่อสร้างอัจฉริยะ ช่วยลดต้นทุน เพิ่มกำไร ด้วย AI


Pain Point ที่ผู้ประกอบการทุกคนเข้าใจดี


ก่อนที่จะมีระบบที่แข็งแกร่งเข้ามาช่วย การทำงานของ โฮม สตอรี่ ลิฟวิ่ง ก็ไม่ต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นในวงการ:

  1. ความสับสนในการจัดซื้อวัสดุ: "โครงการ A ต้องใช้เหล็กขนาดนี้ แต่โครงการ B ใช้คนละแบบ" การสั่งซื้อวัสดุสำหรับบ้านหลายๆ หลังพร้อมกันเป็นเรื่องซับซ้อน ฝ่ายจัดซื้อต้องเปิดใบเสนอราคาจากหลายเจ้า เปรียบเทียบราคาด้วยตัวเอง และคอยตรวจสอบเสมอว่าสั่งของไม่ผิดโครงการ ซึ่งเป็นกระบวนการที่กินทั้งเวลาและเสี่ยงต่อความผิดพลาดสูง

  2. ภาพลวงตาของต้นทุนและกำไร: การคำนวณกำไรต่อบ้านหนึ่งหลังไม่ใช่แค่การนำราคาขายมาลบกับค่าวัสดุ แต่มันมีทั้งค่าแรง ค่าดำเนินการ และค่าใช้จ่ายแฝงอีกมากมาย ในอดีต การมองเห็นตัวเลขกำไรที่แท้จริงแบบ Real-time เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ ทำให้การวางแผนการเงินและการเติบโตของบริษัทเป็นไปอย่างยากลำบาก

  3. ข้อมูลที่ไม่เคยเชื่อมถึงกัน: วัสดุที่เหลือจากโครงการหนึ่ง จะถูกนำไปใช้อีกโครงการได้หรือไม่? ทีมก่อสร้างเบิกของไปเท่าไหร่แล้ว? คำถามเหล่านี้เคยต้องอาศัยการโทรเช็กหรือเดินดูที่หน้างาน แต่เมื่อโครงการมีจำนวนมากขึ้น การจัดการแบบเดิมๆ ก็เริ่มสร้างปัญหา สต็อกของหายโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือซื้อของซ้ำซ้อนกลายเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง


จุดเปลี่ยน: เมื่อ "PenMongkon ERP" เข้ามาตอบโจทย์

ระบบ ERP ก่อสร้างอัจฉริยะ ช่วยลดต้นทุน เพิ่มกำไร ด้วย AI


จากความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจริงในการดำเนินธุรกิจ โฮม สตอรี่ ลิฟวิ่ง จึงได้พัฒนาระบบ PenMongkon ERP ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อ "ปลดล็อก" ศักยภาพของธุรกิจสร้างบ้านโดยเฉพาะ และนี่คือสิ่งที่เปลี่ยนไป:

  • จัดซื้อง่ายและแม่นยำ: ปัจจุบัน ฝ่ายจัดซื้อของ โฮม สตอรี่ ลิฟวิ่ง สามารถเปิดใบขอซื้อ (PR) และใบสั่งซื้อ (PO) ที่ผูกตรงกับโครงการบ้านแต่ละหลังได้ทันที ระบบจะช่วยเปรียบเทียบราคาจากซัพพลายเออร์เจ้าประจำให้อัตโนมัติ ลดความผิดพลาดในการสั่งของผิดสเปกไปได้อย่างสิ้นเชิง

  • มองเห็นกำไรทะลุปรุโปร่ง: ทุกครั้งที่มีการเบิกจ่ายวัสดุหรือมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นในโครงการ ระบบ PenMongkon จะบันทึกข้อมูลและอัปเดตต้นทุนจริงทันที ทำให้ผู้บริหารสามารถเห็นภาพรวมของต้นทุนเทียบกับงบประมาณ และวิเคราะห์กำไรต่อโครงการได้ตลอดเวลา ไม่ต้องรอจนจบโครงการอีกต่อไป

  • สต็อกอัจฉริยะ คืนของอัตโนมัติ: จุดเด่นที่สำคัญคือ เมื่อมีวัสดุเหลือจากโครงการ ระบบสามารถทำเรื่อง "คืนสต็อก" กลับเข้าคลังกลางได้โดยอัตโนมัติ ทำให้ทีมงานรู้ทันทีว่ามีวัสดุอะไรที่พร้อมใช้งานสำหรับโครงการถัดไป ช่วยลดการสั่งซื้อที่ไม่จำเป็นและบริหารจัดการทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่าสูงสุด

  • ระบบ ERP ก่อสร้างอัจฉริยะ ช่วยลดต้นทุน เพิ่มกำไร ด้วย AI สามาถช่วยคุณได้จริง


ไม่ใช่แค่ ERP, แต่นี่คือ 'สมองกล AI' ที่ปฏิวัติธุรกิจสร้างบ้านของ โฮม สตอรี่ ลิฟวิ่ง

จุดเปลี่ยน: เมื่อเราผสาน AI เข้ากับทุกกระบวนการผ่าน "PenMongkon ERP"


ระบบ ERP อัฉริยะพร้อม AI ที่แก้ปัญหาหลักของธุรกิจสร้างบ้านและวัสดุก่อสร้าง ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ
PenMongkon ระบบ ERP ก่อสร้างอัจฉริยะ ช่วยลดต้นทุน เพิ่มกำไร ด้วย AI

จากความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น เราไม่ได้เพียงพัฒนาระบบ ERP ธรรมดา แต่เราได้ฝัง หัวใจอัจฉริยะ (AI Core) เข้าไปในระบบ เพื่อให้ PenMongkon ERP เป็นมากกว่าโปรแกรมบันทึกข้อมูล แต่มันคือ ที่ปรึกษาอัจฉริยะ ที่ช่วยเราตัดสินใจได้ดีขึ้นในทุกมิติ และนี่คือวิธีที่ AI พลิกเกมให้กับ โฮม สตอรี่ ลิฟวิ่ง:


  1. AI ช่วยวิเคราะห์ต้นทุน-เวลา-ประสิทธิภาพ (AI-Driven Analysis) เราสามารถใช้ AI ที่ฝั่งในระบบช่วทำการวิเคราะห์ปัญหาของกระบวนการผลิตในโครงการ และให้คำแนะนำในสร้างกระบวนการทำงานหรือ ก่อสร้างได้แม่นยำ ,ช่วยลดต้นทุน ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพในการก่อสร้างได้ทันที:

    • ต้นทุนที่แม่นยำ: AI จะวิเคราะห์ราคาวัสดุและค่าแรงจากข้อมูลในอดีตและปัจจุบัน เพื่อพยากรณ์ต้นทุนรวมของโครงการได้ใกล้เคียงความจริงที่สุด

    • ระยะเวลาการก่อสร้าง: จากข้อมูลสถิติ AI สามารถคำนวณระยะเวลาที่ต้องใช้ในแต่ละขั้นตอน และชี้ให้เห็นว่าจุดไหนอาจเกิดความล่าช้าได้

    • ประสิทธิภาพการสร้าง: ระบบจะเปรียบเทียบแผนงานกับข้อมูลการก่อสร้างจริงในอดีต เพื่อหาแนวทางที่จะสร้างได้เร็วขึ้นและประหยัดขึ้น

  2. AI ช่วยนำเสนอแผนปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพ (AI-Powered Optimization) นี่คือส่วนที่ทรงพลังที่สุด PenMongkon ERP ไม่ได้แค่รายงานผล แต่ AI จะคอย วิเคราะห์ข้อมูลการทำงานจริงตลอดเวลา เมื่อมันตรวจพบ 'คอขวด' (Bottlenecks) ในกระบวนการ เช่น ขั้นตอนการเบิกของที่ล่าช้า หรือการใช้วัสดุที่สิ้นเปลืองเกินแผน ระบบจะ แจ้งเตือนและนำเสนอแผนงานในการปรับปรุง ให้กับทีมผู้บริหารทันที เช่น "แนะนำให้เปลี่ยนซัพพลายเออร์เหล็กรายใหม่เพื่อลดระยะเวลารอ 15%" หรือ "โครงการประเภท B มีการสูญเสียกระเบื้องเกินค่าเฉลี่ย 10% ควรตรวจสอบขั้นตอนการติดตั้ง"

  3. จากเดิมที่ต้องใช้ประสบการณ์ของคนในการแก้ปัญหา ตอนนี้เรามี AI ที่คอยมองหาโอกาสในการพัฒนาธุรกิจให้เราตลอด 24 ชั่วโมง

  4. PenMongkon ERP ได้เปลี่ยนให้การทำงานของ โฮม สตอรี่ ลิฟวิ่ง จำกัด กลายเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Organization) อย่างแท้จริง การตัดสินใจทุกอย่างเฉียบคมขึ้น ต้นทุนลดลง และเราสามารถส่งมอบบ้านคุณภาพให้ลูกค้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

  5. เรื่องราวของเราเป็นข้อพิสูจน์ว่า อนาคตของอุตสาหกรรมก่อสร้างไม่ได้ขึ้นอยู่กับการทำงานหนักขึ้น แต่อยู่ที่การทำงานอย่างชาญฉลาดขึ้น ด้วยการเลือกใช้เทคโนโลยีที่ "ใช่" และมี AI เป็นเพื่อนคู่คิดในการเติบโตอย่างยั่งยืน

  6. PenMongkon ERP ไม่ได้เป็นเพียงแค่โปรแกรม แต่เป็นหัวใจของการดำเนินงานที่เชื่อมโยงทุกฝ่ายเข้าด้วยกัน ตั้งแต่ฝ่ายขาย ฝ่ายจัดซื้อ ทีมก่อสร้าง ไปจนถึงฝ่ายบัญชี ทำให้การทำงานของ โฮม สตอรี่ ลิฟวิ่ง จำกัด ไหลลื่น มีประสิทธิภาพ และพร้อมที่จะเติบโตไปข้างหน้าอย่างมั่นคง


ระบบ ERP ก่อสร้างอัจฉริยะ ช่วยลดต้นทุน เพิ่มกำไร ด้วย AI

โดยสรุประบบ PenMongkon ERP มีจุดเด่น และคุณสมบัติหรือ Features อะไรบ้าง


  1. ระบบบริหารจัดการโครงการ : สามารถเพิ่มโครงการก่อสร้างบ้านได้ไม่จำกัด กำหนดเวลาการเริ่ม และสิ้นสุดการก่อสร้าง และช่วยดูระยะเวลาการก่อสร้างได้ทุกเวลา นอกจากนี้ยังสามารถแนบเอกสาร และรูปถ่ายของโครงการได้ ไม่จำกัด

  2. ระบบสร้างสินค้าอัฉริยะด้วย AI : สามารถกำหนดชื่อสินค้า แล้วให้ AI สร้างรายละเอียดสินค้าได้ครบจบที่เดียวทันที ไม่ต้องเสียเวลา

  3. ระบบกำหนดสิทธิ์การใช้งานในองค์กร : สามารถกำหนดสิทธิ์การใช้งานลงลึงได้ทุก Function และลงได้ถึงใครสามารถทำอะไรได้บ้าง ไม่ว่าจะ อ่าน , สร้าง , แก้ไข หรือลบ ทุกอย่างระบบออกแบบมาให้รัดกุมและปลอดภัย

  4. ระบบจัดซื้อ : เป็นอีกระบบที่สามารถทำการเชื่อมโยงกับระบบบริหารจัดการโครงการได้อย่างไร้รอยต่อ สามารถมอบหมายให้จัดซื้อทำการเปิด PR --> PO --> GR โดยมีการทำงานดังนี้

    • ออกใบ Purchase Request หรือใบขอซื้อ และทำการส่งอนุมัติได้ทาง Link , LINE , Email หรือ นำข้อความไปวางส่งด้วย Platform อะไรก็ได้ที่ องค์กรใช้ แบบสะดวก สุดๆ พร้อมระบบเก็บเอกสารใน Google Drive ที่ปลอดภัย ประหยัด

    • เมื่อได้รับการอนุมัติจากระบบแล้ว จะส่งต่อไปให้จัดซื้อเปิด PO หรือ Purchase Order ซึ่งสามารถดึง PR มาได้ เลยลดเวลาการทำงาน ไม่ต้องสร้างใหม่ และยังมีระบบการส่ง PO ให้อนุมัติก่อนทำการสั่งซื้อ พร้อมลงชื่อผู้อนุมัติ และเก็บเอกสารในระบบ Google Drive ได้ ปลอดภัย และประหยัดต้นทุน นอกจากนี้ ยังสามารถระบพิกัดในการจัดส่งสินค้าให้กับ ซัพพลายเออร์ เพื่อให้ส่งสินค้าได้ตรงจุดได้

    • เมื่อเปิด PO หรือใบสั่งซื้อแล้ว สามารถทำการ GR หรือ Good Receive รับสินค้าเข้าคลังที่เราสร้างไว้ จะกี่คลังก็เอาอยู่ มีทั้งคลังแม่ คลังลูก คลังออนไลน์ คลังลอย หรือตามที่เราต้องการสร้าง

    • เมื่อรับสินค้าเข้าคลังเรียบร้อย สามารถทำการเบิกสินค้าเข้าโครงการเพื่อทำการก่อสร้าง บ้าน , คอนโด , อพาร์ทเม้นท์ หรืออาคารได้ทุกชนิด

    • เมื่อเบิกสินค้ามาใช้เกินก็สามารถ รับคืนสินค้ากลับเข้าคลังสินค้าได้ ระบบจะคำนวณ สต็อก (Stock) สินค้าให้อัตโนมัติ

    • มีระบบ Stock Card เก็บทุกความเคลื่อนไหวของสต็อกสินค้า ไม่ให้คลาดสายตา ตรวจสอบได้ตลอด 24 ชั่วโมง

  5. ระบบขาย : ถือเป็นอีกระบบที่เป็นหัวใจของการขายสินค้า โดยสามารถมอบหมายให้ฝ่ายขายทำการเปิด Quotation --> Sales Order ---> Receipt & Invoice --> Delivery & Pickup Issue --> GI (Good Issue) --> Credit Note มีระบบการทำงานดังนี้

    • พนักงานสามารถสร้างใบเสนอราคา หรือ Quotation เพื่อขายบ้าน หรือขายสินค้าได้ (ใช้สำหรับขายสินค้าอย่างเดียวก็ได้)

    • เสนออนุมัติใบ Quotation ได้ ผ่าน Link , LINE , Email หรือ นำข้อความไปวางส่งด้วย Platform อะไรก็ได้ที่ องค์กรใช้ แบบสะดวก สุดๆ พร้อมระบบเก็บเอกสารใน Google Drive ที่ปลอดภัย ประหยัด

    • เมื่อได้รับอนุมัติใบเสนอราคาหรือ Quotation แล้วก็จะนำใบเสนอราคามาสร้าง SO หรือ Sales Order หรือใบสั่งขาย ซึ่งทุกอย่างแค่เลือก แล้วระบบจะสร้างให้เองอัตโนมัติ

    • สามารถสร้างระบบการับสินค้า จ่ายสินค้า หรือขนส่งสินค้า พร้อมออกใบส่ง/รับสินค้า ให้ลูกค้า โดยไม่แนบต้นทุน และราคาติดไปด้วย ผู้ขนส่ง / ผู้รับสินค้าจะเห็นเพียงรายการสินค้า จำนวน และสถานที่จัดส่งเท่านั้น ซึ่งจะแนบ Link พิกัดแผนที่ให้คนรับสินค้า หรือส่งสินค้า เพื่อนำทางไปยังจุดหมาย หรือ Ship To ได้อย่างแม่นยำ พร้อมรายชื่อ และเบอร์ติดต่อ

    • มีระบบตัดจ่ายสินค้า หรือ GI (Good Issue) และตัดสต็อกออกจริงจากระบบ Stock Card และคลังสินค้า

    • ระบบเครดิตการขาย สามารถกำหนดเงื่อนไขการชำระเงินได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะขายเงินสดโอนก่อน , เงินสดชำระเมื่อส่งสินค้า , เงินเชื่อ หรือเงื่อนไขอื่นๆ รองรับทุกรูปแบบ สร้างเพิ่มได้ไม่จำกัด

    • ระบบเคลมสินค้า และระบบรับคืนสินค้า พร้อมออกใบลดหนี้ให้ลูกค้า และนำเข้า Stock สินค้าเข้าคลัง พร้อมทั้งปรับปรุงสต็อกให้ถูกต้องเสมอ

  6. ระบบตั้งค่าภาษี : สามารถตั้งค่าภาษีในรูปแบบต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็น ภาษีมูลค่าเพิ่ม , ภาษีหักณ.ที่จ่าย ในแบบต่างๆ ตั้งค่าปรับแต่งได้เองไม่จำกัด ระบบจำนำไปคำนวณต่อให้

  7. ระบบตั้งค่าสิทธิ์การใช้งานลึกถึงคน และการทำงาน : สามารถกำหนดสิทธิ์การใช้งานระบบต่างๆให้กับพนักงานได้ระดับบุคคล และระดับ Function การใช้งาน ทำให้ระบบปลอดภัยจากการแก้ไข หรือเข้ามาดูข้อมูลข้ามสายงาน ข้ามผู้รับผิดชอบ

  8. ระบบรายงาน และวิเคราะห์ด้วย AI : ระบบมี AI ของ ChatGPT ที่ทำหน้าที่ในการวิเคราะห์ข้อมูล และให้คำแนะนำการวิธีการลดต้นทุน , เพิ่มประสิทธิ์ภาพ หรือแนะนำแผนธุรกิจให้ตลอดเวลา เพียงนำรหัส API ที่องค์กรสร้าง มาวางในระบบก็สามารถใช้งานได้ทันที


ระบบทั้งหมดยืดหยุ่น สามารถพัฒนาต่อเนื่องได้ เพราะทั้งหมดใช้ AI ในการพัฒนา และควบคุมด้วยโปรแกรมเมอร์ ทำให้ได้ตัวแอปที่ทรงประสิทธิภาพ และรวดเร็ว


เล่ามาถึงตอนนี้ ผมอยากแบ่งปันความรู้ และทักษะในการพัฒนาแอปพลิเคชั่นด้วย AI ที่ ทั้งปลอดภัย และรวดเร็ว ลดเวลา , ลดงาน , ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มประสิทธิภาพได้จริง ผมใช้เทคโนโลยีเฉพาะทาง AI ที่พัฒนาเว็บแอปพลิเคชั่นขึ้นมาเรื่อยๆ โปรดติดตามที่เว็บ aiam9.com ของผมเพื่อไม่พลาดแอปพลิเคชั่นที่มาช่วยธุรกิจได้จริง และเป็นของจริง ไม่ใช่ Mockup ขึ้นมา ระบบนี้ใช้เวลาพัฒนาที่เร็วมากเพียง 14 วันเท่านั้น และยังพัฒนาต่อได้อีกไม่จำกัด และเพิ่ม Features ได้อีกเรื่อยๆ ด้วยต้นทุนที่ไม่สูง

เรื่องราวของ โฮม สตอรี่ ลิฟวิ่ง เป็นข้อพิสูจน์ว่า การเลือกใช้เครื่องมือที่ "ใช่" และสร้างขึ้นจากความเข้าใจในธุรกิจอย่างลึกซึ้ง สามารถเปลี่ยนความท้าทายที่น่าปวดหัวให้กลายเป็นโอกาสในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันได้อย่างแท้จริง





ความคิดเห็น

ได้รับ 0 เต็ม 5 ดาว
ยังไม่มีการให้คะแนน

ให้คะแนน

หากคุณมีคำถาม หรือสนใจแลกเปลี่ยนมุมมองเพิ่มเติม เรายินดีที่จะให้ข้อมูลและพูดคุยกับคุณฟรีๆ
เพียงติดต่อเรา!

© 2025 VibeMeCode | All Rights Reserved | Powered by aiam9

bottom of page